จึงรู้สึกประหม่า เกร็ง และไม่มั่นใจ
เด็กชายเป็นคนขี้อายเล็กน้อย เก็บอารมณ์
ไม่ยิ้มให้ใครง่ายๆ โลกส่วนตัวสูง
วันแรก...
เด็กหญิงต้องใช้ชีวิตในสถานที่ที่แปลกใหม่
มีเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าใดนัก
เด็กหญิงจึงรู้สึกกลัว และหวั่นใจ
เด็กชายมาพร้อมกับเพื่อนที่สนิท
เด็กชายพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมไม่กลัวสิ่งใด
วันที่สอง...
เด็กหญิงท้อแท้และหมดหวังในทุกสิ่ง
เด็กชายเดินมาหาเพื่อนแล้วเหลือบมองเด็กหญิง
เด็กหญิงที่กำลังจะร้องไห้ ได้เด็กชายคอยช่วยเหลือ
เด็กชายรู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ แต่ก็พอใจ
เด็กหญิงรู้สึกเกรงใจเด็กชายมากมาย
แต่ก็ไม่อยากให้เด็กชายไปไหน
วันที่สาม...
เด็กชายอยู่เคียงข้างเด็กหญิง
เด็กหญิงเริ่มสงสัยในตัวเด็กชาย
พร้อมกับที่เด็กชายเริ่มสนใจในตัวเด็กหญิง
เด็กหญิงและเด็กชายได้พูดคุยกันมากขึ้น
แม้จะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
แค่วันนี้มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน
เด็กหญิงและเด็กชายก็พอใจแล้ว
วันที่สี่...
เด็กชายไม่ไปไหนไกล
เด็กหญิงเริ่มทดสอบเด็กชายตอนทีเผลอ
การทดสอบทุกครั้งทำให้เด็กหญิงยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเด็กชายเห็นเด็กหญิงยิ้ม จึงยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว
ไม่มีความทุกข์ให้เจออีกต่อไป
วันที่ห้า...
ครั้งหนึ่งเมื่ออาจารย์กล่าวว่า
"พักสายตาบ้าง ลองหาสิ่งสวยงามในห้องดูสิ"
เด็กชายหันมามองเด็กหญิงทันที
ขณะเดียวกันนั้นเองเด็กหญิงก็หันไปสบตาเด็กชายพอดี
ความสุขเกิดขึ้นโดยฉับพลัน และโลกก็กลายเป็นสีชมพู
วันที่หก...
เด็กชายและเด็กหญิงเริ่มหวั่นไหว
วันที่ต้องจากกันเริ่มใกล้เข้ามา
เวลาอันแสนสุขใกล้หมดลงแล้ว
เด็กทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
และได้แลกเปลี่ยน Diary กัน
เด็กชายกลั่นกรองความรู้สึกทั้งหมด
ใส่ลงใน Diary ด้วยถ้อยคำที่งดงามเปี่ยมความหมาย
แม้เด็กชายเป็นคนขี้อาย แต่ก็เขียนทุกอย่างด้วยหัวใจ
ตรงข้ามกับเด็กหญิง ซึ่งเขียน Diary ด้วยความกลัวและกังวล
สิ่งที่ปรากฏ เป็นถ้อยคำที่ไร้ความรู้สึก ไม่มีชีวิตชีวา
เด็กหญิงได้เพียงหวังว่า Diary ที่ไม่มีหัวใจนี้
จะไม่ทำร้ายความรู้สึกของเด็กชาย และเด็กชายคงเข้าใจ
วันที่เจ็ด...
เมื่อเวลาที่จากกันมาถึง
เด็กชายยืนส่งเด็กหญิงด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ไม่รู้อนาคตว่าจะได้เจอกันอีกหรือไม่
เด็กหญิงกลั้นน้ำตาเต็มที่
เพื่อที่จะยิ้มและโบกมือลาเด็กชาย
อีกวันหลังจากนั้น...
เด็กหญิงเปิด Diary ที่เด็กชายเขียนให้แล้วอ่าน
น้ำตาไหลมาตอนไหนไม่รู้
ทำไมเด็กชายถึงดีอย่างนี้
ทำไมตัวเองถึงแย่อย่างนี้
Diary ของเด็กหญิง ไม่ได้ใส่หัวใจลงไปเลย
แต่เด็กหญิงกลับพบหัวใจดวงโตใน Diary ของเด็กชาย
เด็กหญิงได้ทำลายหัวใจของเด็กชายลงไปโดยไม่รู้ตัว
ทั้งๆที่เด็กหญิงรู้สึกไม่ต่างจากเด็กชาย
เพียงแค่ความกังวลเพียงนิด
กลับสามารถทำให้ความหวังนั้นจางหายไป
เอากลับมาไม่ได้อีกแล้ว
สายไปแล้ว
ตอนนี้สายไปแล้ว
สายไปแล้วจริงๆ
.
.
.
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
...
ยังมีคำว่า "สายเกินไป" อยู่บนโลกนี้
โปรดใช้ชีวิตอันน้อยนิดอย่างระมัดระวังนะ ^^
แสดงความคิดเห็น